โดยปกติตั้งแต่เกิดมา ระบบต่างๆ ภายในร่างกายจะสมบูรณ์พร้อม และจะแย่ลงเนื่องจากพฤติกรรมต่างๆ ของแต่ละบุคคล หนึ่งในกระบวนการร่างกายที่โดยทำร้ายมากที่สุดก็คือกระบวนการเผาผลาญ และนั่นส่งผลให้ประชาโลกเกินครึ่งมีน้ำหนักตัวที่เกินมาตรฐาน แล้วเราจะรู้ได้ไงว่ากระบวนการเผาผลาญพลังงานของเราย่ำแย่ Gangbeauty มีวิธีเช็กเบื้องต้น มาดูซิว่าเธอทำพฤติกรรมเหล่านี้บ้างไหม!
1. กาแฟ/เครื่องดื่มชูกำลังไม่มีขาด
เธอคนไหนเป็นผู้หญิงทำงาน สายสตรอง อาจเป็นไปได้ว่าจะมีปัญหากับกระบวนการเผาผลาญของร่างกาย เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีแนวโน้มจะดื่มกาแฟและเครื่องดื่มชูกำลังมากกว่าคนทั่วไป อีกทั้งยังอดอาหาร ทานอาหารไม่ตรงเวลา นอนหลับพักผ่อนน้อยกว่าที่ควรจะเป็น เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของกระบวนการเผาผลาญทั้งสิ้น
2. ออกกำลังกายมากไป
การออกกำลังกายอย่างหักโหมเพราะต้องการรีดน้ำหนักให้ลงไวที่สุด เป็นการกระทำที่ผิดมหันต์ เพราะมันคือการบีบให้กระบวนการเผาผลาญทำงานหนักจนมันเหนื่อยและเริ่มจะต่อต้าน ป้องกันตัวเองจากการโดนเราบีบด้วยการออกกำลังกายที่มากเกินไป ผลคือมันจะทำหน้าที่เผาผลาญน้อยลง
3. ล้างพิษในลำไส้ด้วยน้ำดีท็อกซ์บ่อย
การดื่มน้ำดีท็อกซ์ น้ำผักผลไม้ น้ำอะไรก็ตามที่ช่วยในการลดน้ำหนัก ถือเป็นเรื่องดีต่อรูปร่างนะ แต่ไม่ดีต่อกระบวนการเผาผลาญพลังงานของร่างกายเลย คล้ายกับการออกกำลังกายอย่างหักโหม การดื่มน้ำเหล่านี้บ่อยๆ จะทำให้ระบบเกิดความตึงเครียด เปิดโหมดป้องกันตัวเอง เผาผลาญน้อยลงเช่นกัน
โดยในทางกายภาพ เราจะสามารถรับรู้ได้ว่ากระบวนการเผาผลาญพลังงานของเราเสื่อมถอย จากความรู้สึกเหมือนไม่มีเรี่ยวแรงนี่ล่ะ อาจสื่อออกมาในรูปแบบของการขาดแรงขับทางเพศ ความรู้สึกเฉื่อยชา สมองล้า ซึม เบลอ หรือแม้แต่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นทั้งที่ออกกำลังกายหนักหน่วง นอกจากนี้ยังอาจมีอาการอยากกินนั่นกินนี่แบบรุนแรง ตื่นนอนยากแต่นอนไม่หลับ ปวดตามข้อ รู้สึกขาดความบันเทิงในชีวิต สิ่งเหล่านี้มีผลสืบเนื่องมาจากกระบวนการเผาผลาญพลังงานของร่างกายทั้งสิ้น ทางที่ดี ควรทานอาหารสุขภาพ ทานน้อยแต่เน้นออกกำลังกายแบบพอดีก็เพียงพอ
พฤติกรรมเก่าน่ะ สลัดทิ้งไปซะ หยุดแกล้งร่างกายสักที!