เทรนด์หุ่นดีกำลังมา แต่สังเกตกันบ้างมั้ยล่ะว่าทำไมตัวเองถึงลดน้ำหนักไม่ลงถึงแม้ว่าจะมีการคุมอาหารหรือออกกำลังกายด้วยแล้วก็ตาม และเรื่องนี้ Gangbeauty ก็มีคำตอบ เราขออนุญาตหยิบยกคำแนะนำจากฟิตเนสเทรนเนอร์และโค้ชนักกีฬาอาชีพ โรเบิร์ต เอส เฮิร์บสต์ มาฝากสาวๆ รับรองว่าอ่านแล้วจะเข้าใจหลักในการลดน้ำหนักมากขึ้นแน่นอน!
1. ไม่จำเป็นต้องหักโหมคาร์ดิโอ
หลายคนอาจจะใช้วิธีการวิ่ง การแอโรบิก หรือการกระโดดเชือกในการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก และอาจจะหักโหมหนักมาก รู้สึกพอใจมากที่ได้เห็นเหงื่อท่วมทะลัก แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือน้ำหนักแทบไม่ลดลง นั่นเป็นเพราะการคาร์ดิโอ เป็นการออกกำลังกายที่ทำให้ระบบเผาผลาญทำงานช้าลง เพื่อนำพลังงานไปใช้ออกกำลังกาย ดังนั้นการอดทนคาร์ดิโอจนหอบเหนื่อยจึงไม่เป็นผลดีเลยสำหรับคนที่อยากลดน้ำหนัก อยากให้ระบบเผาผลาญทำงานดี เปลี่ยนมาออกกำลังกายแบบหนักสลับเบา เน้นสร้างกล้ามเนื้อเยอะๆ ระบบเผาผลาญจะได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นยังไงล่ะ
2. ไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์
บางคนไม่ยอมเริ่มต้นการออกกำลังกาย เนื่องจากไม่มีทุนทรัพย์ที่จะเข้ายิม หรือซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายต่างๆ เหมือนวิดีโอตัวอย่างที่อยู่ตามโลกออนไลน์ แต่อย่าลืมสิว่าร่างกายของเรามันไม่รู้จักอุปกรณ์พวกนี้หรอก มันก็รู้จักแต่ตัวของมันเองเท่านั้นล่ะ ความตั้งใจ ความสม่ำเสมอ ร่วมกับความรู้เกี่ยวกับสุขภาพต่างหากคือสิ่งที่จำเป็นยิ่งกว่า
3. ไม่จำเป็นต้องอดอาหาร
การจำกัดปริมาณแคลอรีในอาหารคือสูตรหนึ่งที่ผู้หญิงนิยมใช้ในการลดน้ำหนัก และหลายคนก็เลือกที่จะอดมื้อกินมื้อ เพื่อไม่ให้ปริมาณแคลอรีที่เข้าสู่ร่างกายเกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ แต่ความจริงแล้วมันคือตัวการสำคัญที่จะทำลายแผนการลดน้ำหนักของเราต่างหาก ยิ่งอดอาหาร ก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิด พอหงุดหงิดก็เริ่มเสียสมาธิในการทำงาน เสียโฟกัสในการดำรงชีวิต สุดท้ายก็ต้องกลับมาเริ่มทานใหม่เพราะเครียดไปแล้ว เผลอๆ ก็ทานมากกว่าเดิมซะอีก
4. ไม่จำเป็นต้องไร้ไขมัน
รู้หรือไม่ว่าการที่เรารู้สึกอยากทานน้ำตาลมากขึ้น อาจมาจากการที่เราทานแต่ผลิตภัณฑ์ปราศจากไขมันนี่ล่ะ นอกจากนี้ไขมันบางอย่างยังมีความจำเป็นอย่างมากต่อร่างกาย ถ้าเราเลือกที่จะปฏิเสธไขมันทุกชนิดโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง การันตีได้ว่ายังไงน้ำหนักก็ไม่ลง แถมยังมีแนวโน้มจะมีคอเลสเตอรอลในเลือดสูงด้วย
ต่อจากนี้จะได้ไม่เสียแรงไปโดยสูญเปล่า น้ำหนักก็ลด!