เวลาที่เราลดน้ำหนัก หลายคนน่าจะเคยเห็นสูตรลดน้ำหนัก มีเมนูโยเกิร์ตอยู่ในมื้ออาหาร เพราะทั้งแคลอรี่น้อย หาซื้อไม่ยาก และนอกจากนี้โยเกิร์ตยังมีประโยชน์มากมายช่วยให้ถ่ายท้องอีกด้วย แต่โยเกิร์ตทานแล้วช่วยลดน้ำหนักได้จริงไหม วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยกันเกี่ยวกับคุณค่าของโยเกิร์ต และคนที่ลดน้ำหนักทานโยเกิร์ตแล้วช่วยได้จริงหรือไม่?
โยเกิร์ตทำมาจากอะไร
เชื่อว่าเกือบทุกคนน่าจะเคยทานโยเกิร์ตกันมาอย่างแน่นอน อาจจะกินกับคอนเฟลค ธัญพืชเป็นอาหารเช้า หรือจะทานในช่วงเย็นกับผลไม้ก็อยู่ท้อง และอาจจะพอรู้กันมาบ้างแล้วว่าโยเกิร์ตทำมาจากนม โดยจริงๆ แล้วโยเกิร์ตสามารถทำได้จากทั้งนมวัว, นมแพะ, นมแกะ หรือนมอูฐ โดยเติมแบคทีเรียลงไปในนม และเก็บในสถานที่ที่ควบคุมเพื่อให้เกิดการหมัก การหมักจะทำให้โยเกิร์ตขึ้นรูปและมีรสเปรี้ยว
โดยแบคทีเรียที่ใช้ในการทำโยเกิร์ตคือ Streptococcus thermophiles, Lactobacillus bulgaricus เติมลงในนมสดและตั้งไฟ แบคทีเรียจะเข้าไปทำให้น้ำตาล (แลคโตส) ในนมเปลี่ยนเป็น กรดแลคติค กรดแลคติคจะทำให้นมจับตัว และมีรสชาติเปรี้ยวแบบโยเกิร์ตที่เราทานกันปกตินี่เอง บางครั้งอาจจะมีการเติมแบคทีเรียตัวอื่นเพื่อเพิ่มประโยชน์ต่อสุขภาพ หรือเติมเจลาติน ที่ช่วยให้โยเกิร์ตมีสัมผัสที่คล้ายๆ ครีมมากยิ่งขึ้น
สารอาหารในโยเกิร์ต
แม้ว่าโยเกิร์ตจะมีกรรมวิธีการทำด้วยแบคทีเรียแต่ก็ดีต่อสุขภาพไม่น้อยเลยนะ เพราะมีทั้งแคลเซียม, โปรตีน และโปรไบโอติกส์ ซึ่งดีต่อร่างกายของเราอย่างไรบ้าง ลองอ่านกัน
แคลเซียม
โยเกิร์ตนั้นเป็นแหล่งแคลโซียมชั้นดีเลย เพราะ 1 ถ้วยมีแคลเซียมถึง 23% แคลเซียมถือเป็นแร่ธาตุที่สำคัญ เพราะช่วยบำรุงกระดูก และหากมีระดับแคลเซียมในเลือดที่สูง อาจจะลดการเจริญเติบโตของเซลล์ไขมัน ทำให้น้ำหนักลดลงได้ แต่ปัจจุบันยังไม่มีการวิจัยที่สามารถพิสูจน์ได้อย่างแน่ชัด
โปรตีน
โปรตีนมีส่วนช่วยหลากหลายทั้ง ช่วยควบคุมฮอร์โมนความหิว เมื่อทานโปรตีนจะช่วยเพิ่มระดับของฮอร์โมนที่ควบคุมให้เราไม่หิว และควบคุมฮอร์โมนเกรลิค (ฮอร์โมนความหิว) อีกด้วย, ช่วยกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญอาหาร ช่วยเบิร์นแคลอรีเพิ่มขึ้น, ช่วยให้เรารู้สึกอิ่ม เมื่อเราทานอาหารที่โปรตีนสูงจะช่วยให้เรารู้สึกอยากอาหารน้อยลง
โปรไบโอติกส์
อย่างที่เราทราบกันว่าโปรไบโอติคมักจะพบในอาหารที่ผ่านการหมัก ดอง โปรไบโอติกส์ที่เรารู้จักกันดีก็คือ แลคโตบาซิลัส ที่อยู่ในโยเกิร์ต จะช่วยลดน้ำหนักและพุงได้
โยเกิร์ตช่วยลดความอ้วนได้จริงไหม
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า โยเกิร์ต ‘ไม่ได้ช่วยลดน้ำหนักได้โดยตรง แต่หากทานเป็นประจำอาจจะช่วยให้มีโอกาสการมีน้ำหนักตัวเกินน้อยลง’ โดยมีการศึกษาจาก National Library of Medicine โดยสำรวจจากผู้ใหญ่จำนวน 8,516 คน ที่ทานโยเกิร์ตมากกว่า 7 ครั้งต่อสัปดาห์ จะมีโอกาสที่น้ำหนักตัวจะมากเกิน หรือเป็นโรคอ้วน น้อยกว่าคนที่ทานโยเกิร์ต 2 ครั้ง หรือน้อยกว่านั้น และจากอีกหนึ่งการสำรวจ 3,440 คน พบว่าคนที่ทานโยเกิร์ตอย่างน้อย 3 ถ้วยต่อสัปดาห์ จะมีอัตราการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักที่น้อย หรือมีความเปลี่ยนแปลงของขนาดเอว มากกว่าคนที่ทานน้อยกว่า 1 ถ้วยต่อสัปดาห์
และนอกจากนี้ยังมีการสำรวจในผู้หญิง 20 คนที่ทานโยเกิร์ตแทนอาหารว่าง โดยแคลอรี่เท่ากับแคร็กเกอร์ หรือช็อกโกแลต คนที่ทานโยเกิร์ตจะรู้สึกอิ่มนานขึ้นและยังทานอาหารมื้อเย็นแคลอรี่น้อยลงอีกด้วย
ข้อควรระวังเกี่ยวกับโยเกิร์ต
แม้ว่าโยเกิร์ตจะดีต่อสุขภาพทั้งในด้านของลำไส้ การขับถ่าย และยังช่วยให้รู้สึกอิ่มนาน แคลอรี่ไม่เยอะแต่ก็ต้องเลือกโยเกิร์ตที่ดีต่อสุขภาพ เพราะปัจจุบันมีหลายยี่ห้อที่มีน้ำตาลสูง แม้จะเขียนว่า Low Fat แนะนำให้ทุกคนดูฉลากให้ดีนะคะว่ามีจำนวนน้ำตาลเท่าไหร่ เพราะหากน้ำตาลสูงจะเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคอ้วน น้ำหนักเกิน อาจจะเป็นปัจจัยของโรคเบาหวาน และโรคหัวใจได้อีกด้วย
โยเกิร์ตถือเป็นอีกหนึ่งอาหาร หรือขนมยามว่างที่ดีสำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนักนะ แต่ยังไงก็แนะนำให้ทุกคนทานอาหารให้ครบ 5 หมู่แต่ควบคุมในส่วนของน้ำตาล แป้ง อาหารมันอาหารทอดเพิ่มเติมด้วยนะ และอย่าลืมออกกำลังกายจะได้มีสุขภาพดี หุ่นดีด้วย