หลังจากผ่านวิธีลดน้ำหนักมาแทบจะทุกแบบ แต่ก็พบว่าความผอมหลังจากที่ลดความอ้วนแบบผิดๆ ส่งผลให้น้ำหนักขึ้นพรวดๆ เธอเลย Set zero กับการลดน้ำหนักใหม่อีกครั้ง ด้วยความตั้งใจอย่างจริงจัง จนกระทั่งน้ำหนักลดลงไป 30 กิโลกรัม ภายใน 6 เดือน เท่านั้น เรามาดูกันว่า คุณสมาชิกหมายเลข 5089125 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มีวิธีลดน้ำหนักยังไงบ้าง ก่อนจะมาถึงจุดนี้
เราอยากแบ่งปันประสบการณ์ลดน้ำหนัก 30 กิโล
ใน 6 เดือนค่ะ โดย คุณ สมาชิกหมายเลข 5089125 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
เราบอกไว้ต้นๆ เลยนะคะ เป็นการลดน้ำหนักที่ใช้วิธีการควบคุมอาหารควบคู่ไปกับการออกกำลังค่ะ ไม่ใช้ยาลดน้ำหนักหรือทางลัดอะไร
เราชื่อฝ้าย อายุ 25 ปี แต่เคยมีอายุเซลล์ 52 ปี เคยมีน้ำหนักถึง 90 กิโล น้ำหนักส่วนใหญ่เกินจากการโยโย่เอฟเฟกต์ หลังทานยาลดน้ำหนัก อาหารเสริมลดน้ำหนัก อดอาหาร ออกกำลังกายหนักๆ ทานอาหารน้อยๆ หรืออดเลย เราลองมาทุกวิธี ทุกวิธีผอมจริงแต่ผลจากนั้นคือน้ำหนักเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
จาก 48 ตอนเราท้องลูกคนแรกหนัก 75 คลอดแล้วเหลือ 52 หลังจากคลอดคนที่สองอยู่ที่ 65 แต่เราคิดว่าอ้วนเราเลยเริ่มทานยาลดน้ำหนัก (หลักจากหย่านมน้อง) ทั้งอดอาหาร ออกกำลังกายหนัก กินยาลดน้ำหนัก อาหารเสริมลดน้ำหนักยี่ห้อต่างๆ ไม่ว่าจะดัง ออกทีวีแค่ไหนก็ทานมาหมด ผลที่ได้คือน้ำหนักเราลดจริงเหลือประมาณ 56-57 เราเริ่มรู้สึกเวียนหัว คลื่นไส้ เราเลยหยุด แล้วหลังจากนั้น ก็บันเทิงสิคะ โยโย่มา 75 เราเลยปล่อยเลยค่ะ กินทุกอย่างที่ขวางหน้า บอกตัวเองช่างมัน เกิดมาทั้งทีต้องกิน เราติ่งเกาหลีมาก ตระเวนกินอาหารเกาหลีค่ะ (เป็นที่รู้กัน อาหารเกาหลี มีรสจัด เค็ม หวาน มัน อร่อยเว่อร์วัง) นั่นแหละค่ะ น้ำหนักเราหนักขึ้นมาถึง 90 กิโล ทานบุฟเฟ่ต์ร้านย่างเกาหลี ทานหมูได้มากสุดถึงสองกิโลกรัม ไม่รวมข้าวเอย แกงเอย ของหวานตบท้ายด้วยนะเดี๋ยวไม่คุ้ม หุ่นเหรอคะ ตามรูปเลยค่ะ
หลังจากนั้นเราเริ่มลดน้ำหนัก น้ำหนักอยู่ 87-70 ค่อยๆ ลดตามลำดับค่ะ
ตอนนั้นหนัก 67
ตอนหนัก 65
ตอนนี้ หนัก 59-62 น้ำหนักไม่ค่อยลงมาเดือนกว่าแล้วค่ะ แต่ที่ลงคือสัดส่วนและเปอร์เซ็นต์ไขมัน
มื้ออาหารที่เราทานค่ะ
สัดส่วนเราตอนนี้เราเล็กกว่าตอนเราหนัก 56 ด้วยซ้ำค่ะ แต่ยังมีน่องแล้วก็ขาที่ยังใหญ่อยู่ ตอนนี้เน้นสร้างกล้ามเนื้อกระชับสัดส่วนค่ะ
เอวเรา จาก 36 นิ้ว ตอนนี้เหลือ 26 นิ้ว ค่ะ เสื้อผ้าจากไซซ์เสื้อ xxl ตอนนี้ใส่ s ได้ค่ะ
พูดถึงเรื่องออกกำลังกาย เราเป็นคนหนึ่งที่ขี้เกียจออกกำลังกายมากเลยค่ะ ถ้าทำหนักๆ เดี๋ยวก็จะท้อไปเลย จนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เราคิดว่าไม่ได้ละ เราจะอ้วนแบบนี้ไม่ได้แล้ว เราต้องควบคุมอาหาร ออกกำลังกายอย่างจริงจังแล้ว เราเลยนั่งคิดว่าเราจะออกกำลังกายอย่างไงให้เราไม่ท้อที่จะออก เราก็เลื่อนมาเจอโพสต์ของค่ายมวย [sky kick GYM chaingmai] กำลังลงลดราคาค่าคอร์สพอดี เราก็เอาวะ…ซื้อรายเดือนเลย
คือไปวันแรกหอบเป็นหมาหอบแดดเลยจร้า (เพิ่งมารู้จากปากครูมวยทีหลังว่า ครูมวยคิดว่าเราไม่น่ารอด คงมาแค่ครั้งสองครั้ง) แต่…ด้วยความเสียดายเงินรายเดือนค่ะ ครูสอนจันทร์-เสาร์ เรียนได้วันละสองชั่วโมง เราก็เรียนจันทร์-เสาร์เลยค่ะ เอาให้คุ้ม จนผ่านมาเดือนแรกน้ำหนักลงไป 5 กิโล มีกำลังใจค่ะ และมันรู้สึกสนุกมากค่ะ ได้เจอผู้คน มีเพื่อนออกกำลังกาย ทุกคนเฟรนด์ลี่มาก ทั้งครู ทั้งนักเรียน เลยต่อเดือนที่สองค่ะ แล้วมาเรื่อยๆ จนอยู่ด้วยกันมา 6 เดือนแล้ว (ช่วงหลังๆ ขายทุเรียนไม่ค่อยมีเวลาก็มาบ้างไม่มาบ้าง แต่ก็ยังควบคุมอาหารอยู่เหมือนเดิม)
เราเรียนมวย ครูสอนทั้งมวยซึ่งเป็นคาร์ดิโอ และเวตค่ะ ต้องทำควบคู่กันไปไม่เช่นนั้นน้ำหนักลงแล้วจะเหี่ยวค่ะ เราไม่มีเหี่ยวเลยค่ะ ทุกวันนี้เราก็ยังไปเพื่อจะปั่นกล้ามเนื้อค่ะ
หวังไกลว่าอยากมีซิกแพกค่ะ
เราเคยโดนดูถูกมากมายค่ะ ว่าอ้วนงั้นอ้วนงี้ กินอะไรก็โดนวิพากษ์วิจารณ์ พอบอกจะลดน้ำหนัก ก็บอกยังไงเราก็ทำไม่ได้หรอก ไม่มีทางที่เราจะทำได้ เราเอาตรงนั้นมาเป็นแรงผลักดันค่ะ ไม่เอามาบั่นทอนจิตใจเราเอง ให้เสียสุขภาพจิต พอลดมาได้สักพักเริ่มเห็นความเปลี่ยแปลงชัดขึ้น ก็บอกพอแล้วแค่นี้ก็ผอมก็สวยแล้วบ้างล่ะ ใช้ยาตัวไหนบ้างล่ะ
เราเริ่มจากตัวเราก่อนค่ะ ไอจีจากติดตามอาหาร ก็เริ่มมาติดตามนายแบบ นางแบบ เมนูคลีน อะไรแบบนี้
เราตั้งเป้าหมายตัวเองค่ะ
1. ปีหน้าเราจะมีเป้าหมายใหม่ที่ไม่ใช่ ปีหน้าจะลดน้ำหนัก
2. เราต้องสวยขึ้น หุ่นดีขึ้นจนคนที่เจอกันต้องทัก เฮ้ย ผอมลงอะไปทำอะไรมา แล้วเราก็จะบรรยายความยากลำบาก ความอดทน ที่ผ่านมา อย่างภาคภูมิใจ
3. รักตัวเองให้มากเพื่อสุขภาพของเรา
4. ให้สามีเหมือนได้ภรรยาใหม่กันไปเลยเอ้า !
อีกรายการที่เป็นแรงผลักดันให้เราคือรายการ คนแปลงร่างของ คุณวู้ดดี้ค่ะ เราฝันว่าเราต้องเป็นหนึ่งในคนที่สามารถแปลงร่างได้แบบนั้นบ้าง เห็นพวกเค้าแล้วมีกำลังใจมากเลยค่ะ แบบว่าไงอะ เค้าทำได้ทำไมเราจะทำไม่ได้
อย่าให้คำพูดของใครมาทำร้ายตัวเรานะคะ เปลี่ยนมันเป็นกำลัง เป็นบทเรียนให้เราได้เดินไปข้างหน้า
…เคยไหมคะ สตอรี่แจ้งเตือนปีที่แล้วว่าจะลดน้ำหนัก มองดูตัวเองปีนี้ (ตอนยังไม่ทำจริงจัง) อ้วนกว่าเดิมว่ะ ถ้าเราทำตอนนั้นตอนนี้คงจะผอมไปแล้ว คงจะหุ่นดี สุขภาพดีไปแล้วอะไรอย่างงี้
มารักตัวเองกันค่ะ
ตอนนี้เข้าเดือนที่ 9 แล้วค่ะ น้ำหนักลงมาอีก 2 กิโล แต่พยายามกระชับสัดส่วนให้มากขึ้นกว่าเดิมอีก พยายามไปด้วยกันนะคะ ใกล้สิ้นปีแล้ว ปีหน้าเราจะได้มีเป้าหมายใหม่ที่ไม่ใช่ ปีหน้าฉันจะลดน้ำหนักอีก