” หุ่นดี ” คงเป็นความฝันของสาวๆ หลายๆ คน แน่นอนว่าการที่จะให้ได้มาซึ่งหุ่นที่ผอมเพรียวคงไม่ใช่เรื่องง่าย บางคนลำบากอดอาหารเป็นเดือน หรือบางคนก็มีสูตรลดน้ำหนักสูตรนั้นสูตรนี้แต่สูตรเบสิกที่ทุกคนมักจะทำคือกินผลไม้เยอะๆ เพราะเชื่อกันว่ากินเท่าไรก็ไม่อ้วนอย่างแน่นอน แต่ผลที่ได้ก็คือน้ำหนักไม่ได้ลดลงสักนิด และยังเพิ่มขึ้นอีกตั้งหากเพราะผลไม้บางชนิดไม่ได้ช่วยในการลดน้ำหนัก และยังเพิ่มน้ำตาลให้กับเราอีก มาดูกันเถอะว่ามีผลไม้อะไรบ้าง แต่ก็ยังมีผลไม้ที่เราสามารถกินได้เท่าไหร่ก็ได้ไม่อ้วนอย่างแน่นอนแถมยังทำให้เราอิ่มนานแม้กินไปเพียงไม่กี่ชิ้นวันนี้ gangbeauty เลยรวบรวมมาให้สาวๆได้เลือกกินกันได้อย่างถูกต้อง แต่อย่าลืมนะจ๊ะอะไรที่กินมากไปก็ไม่ดี กินน้อยไปก็ไม่ดี ดังนั้นไม่ว่าจะอะไรก็ตามควรกินแต่พอดีนะจ๊ะ
ผลไม้ที่กินแล้วอ้วนได้แก่
1.ทุเรียน
ทุเรียนเพียงเม็ดเดียว หรือปริมาณ 100 กรัม มีแคลอรี่สูงถึง 163 แคล (จะเผาผลาญได้ต้องเดิน 59 นาที หรือวิ่ง 26 นาทีอย่างต่อเนื่อง) และลองคิดดูว่าทุเรียนลูกหนึ่ง มีพูทุเรียนเฉลี่ย 5-7 พู พูหนึ่งมีทุเรียน 2-3 เม็ด ดังนั้น กินแต่พอดีก็เพียงพอแล้ว
2.สัปปะรด
ใครๆ ก็บอกว่าดีเพราะสามารถช่วยล้างไขมันในลำไส้ และเหมาะกับการกินเพื่อลดน้ำหนักด้วย ถ้ากินเพียง 1-2 ชิ้นมันก็ไม่ใช่ปัญหาเท่าใด แต่นี่กินกันเป็นกิโลเลย เพราะบางคนอาจจะลืมไปว่ามันหวานและมันเต็มไปด้วยน้ำ จึงทำให้แคลอรี่สามารถพุ่งกระฉูดได้ โดยสัปปะรด 1 ชิ้นหรือ 100 กรัม มีแคลอรี่ 45 แคล
3.มังคุด
มังคุด 4 ลูก ปริมาณ 100 กรัมนี้ ให้แคลอรี่ถึง 82 แคล สามารถเผาผลาญได้ด้วยการเดิน 30 นาที หรือว่ายน้ำ 10 นาที
4.กล้วย
แม้จะรู้กันดีว่ากล้วยเป็นผลไม้สารพัดประโยชน์ เพราะหลายคนยังนิยมกินกล้วยลดน้ำหนักอีกด้วย แต่กล้วยที่สามารถเสริมโปรตีนได้ดีที่สุดก็คือ กล้วยหอม ซึ่งบางคนไม่ชอบกลิ่นของมัน และราคาของมันก็สูงกว่ากล้วยชนิดอื่นๆ จึงได้เปลี่ยนมากินกล้วยไข่และกล้วยน้ำว้าแทน แต่รู้หรือไม่ว่ากล้วย 2 ชนิดนี้ มีน้ำตาลสูงมาก กินเพียง 100 กรัมก็ได้รับแคลอรี่ไปถึง 147 แคลแล้ว ต้องปั่นจักรยานถึง 31 นาทีหรือต้องวิ่ง 23 นาทีจึงจะสามารถเผาผลาญได้หมด
5.เงาะ
เงาะเป็นผลไม้ที่ฉ่ำน้ำและมีรสหวานอร่อย สำหรับแคลอรี่ของเงาะนั้น อยู่ที่ 1 ขีด หรือ 100 กรัม = 67 แคลอรี่ ที่สามารถเบิร์นออกได้ด้วยการวิ่ง 11 นาที หรือปั่นจักรยาน 14 นาที
6.มะม่วง
ปิดท้ายด้วยของชอบของใครหลายๆ คน ไม่ว่าจะดิบ หรือสุก ก็แคลอรี่โหดเหมือนกัน แต่มะม่วงสุกมาพร้อมความหวาน มะม่วงดิบมาพร้อมกับแป้งก็เท่านั้นเอง มะม่วง 3 ขีด หรือราวๆ 4-5 ลูกโตๆ แน่นๆ ก็เท่ากับข้าวทั้งจานแล้ว มะม่วงน้ำดอกไม้สุก 8 ชิ้น = 120 กิโลแคลอรี่ นี่ยังไม่รวมข้าวเหนียวที่ทานกับมะม่วงสุก หรือน้ำปลาหวานที่ทานคู่กับมะม่วงดิบอีกนะ เครื่องเคียงเสริมนี่ก็ตัวดีเลย
ส่วนผลไม้ที่กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนได้แก่
1.แอปเปิ้ล
ในแอปเปิ้ลลูกย่อมๆ 1 ผลให้พลังงาน 80 แคลอรี่ ประกอบด้วยไฟเบอร์มากถึง 4 กรัมเลยค่ะ ” แอปเปิ้ล ” ผลไม้ที่ให้มากกว่าความอร่อย เหมาะกับการเป็นอาหารที่ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก ช่วยลดความอยากอาหารลง แม้แอปเปิ้ลจะมีน้ำตาลแต่ร่างกายก็สามารถดูดซึมและนำไปใช้ประโยชน์ได้ภายใน 10 นาที
2.แคนตาลูป
แคนตาลูป 1 ลูกเล็กมีปริมาณแคลอรี่เพียงแค่ 60 แคลอรี่เท่านั้น แต่แคนตาลูปจะช่วยทำให้เรารู้สึกอิ่มท้องได้นานขึ้น แคนตาลูปเป็นผลไม้ที่มีวิตามินและเกลือแร่สูง ทั้งวิตามินซี วิตามินเอ โพแทสเซียม ไนอาซิน โฟเลต วิตามินบี6 และเบตาแครอทีน แถมยังช่วยดูแลสุขภาพปอดของเราด้วยค่ะ
60 แคลอรี่ ต่อ 1 ลูก คุณประโยชน์อัดแน่นในลูกเดียว ที่สำคัญให้แคลอรี่ต่ำ อิ่มง่าย สารต่อต้านอนุมูลอิสระสูงมากเมื่อเทียบกับผลไม้ที่ให้แคลอรี่ต่ำ ช่วยในการชะลอวัยและริ้วรอยต่างๆ ได้ดี เสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย
4.กีวี
ผลไม้วิตามินสูงที่สุดอีกชนิดหนึ่ง ด้วยรสชาติที่หวานอมเปรี้ยวจึงเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆ เพียงปริมาณแค่ 100 กรัม สามารถให้แคลอรี่ได้เพียง 61 กิโลแคลอรี่ กินเท่าไรก็ไม่อ้วนแน่นอน ที่สำคัญนอกจากจะช่วยเรื่องระบบขับถ่ายแล้ว สาวๆ ต้องถูกใจกันแน่ๆ เพราะยังช่วยเรื่องชะลอวัยและการเกิดริ้วรอยแห่งวัย
5.มะละกอ
” มะละกอ ” ผมไม้ใกล้ตัวที่คนไทยนิยม เป็นอีกผลไม้ที่ให้แคลอรี่ต่ำในปริมาณที่มากพอที่จะทำให้อยู่ท้องได้เลย ให้รสหวาน ทานง่ายอีกอย่างที่สาวๆ ต้องชื่นชอบก็คือช่วยในเรื่องการย่อยอาหาร ผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใสอยู่เสมอ สวยด้วยผอมด้วยคุ้มค่ามากจริงๆ
แตงโมมีแคลอรี่เพียงแค่ 46 แคลอรี่เองค่ะ เป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่กินแล้วจะไม่ทำให้เราอ้วนค่ะ ในแตงโมประกอบไปด้วยโพแทสเซียม วิตามินซี แอนไทออกซิแดนซ์ เบตาแครอทีน และไลโคปีน ซึ่งช่วยป้องกันโรคมะเร็งและโรคหัวใจ รวมถึงช่วยป้องกันโรคมะเร็งเต้านม มะเร็งปอด และมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วยค่ะ