ด้วยสภาพอากาศขึ้นลงผันผวน ทำให้คนไทยมีอาการป่วยบ่อยครั้ง การทานยาตามที่หมอสั่งจึงแทบจะกลายเป็นอีกหนึ่งกิจวัตรประจำวันไปซะแล้ว ทว่าหลายคนก็มักจะมีปัญหา “ลืมทานยา” เพราะมีทั้งก่อนและหลังอาหารจนบางทีก็สงสัยว่าทำไมต้องเป็นแบบนั้น Gangbeauty ว่าเรามาหาคำตอบไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่าจ้ะ!
ยาส่วนใหญ่ที่หมอสั่งให้ทานก่อนอาหารนั้น มักจะเป็นยาที่สามารถดูดซึมได้ดีในช่วงที่ท้องว่าง หรือไม่ก็เป็นยาที่จะช่วยต้านอาการที่จะเกิดหลังทานอาหาร เช่น ยาแก้อาเจียน เนื่องจากยาเหล่านี้สามารถละลายได้ดีในกรด และกระเพาะอาหารที่ว่างเปล่านั้น จะมีสภาวะเป็นกรด ดังนั้นการทานยาที่ละลายได้ดีในกรด ตอนที่กระเพาะยังอยู่ในสภาวะเป็นกรด ยาก็จะถูกละลายและดูดซึมได้ดี เป็นผลดีต่อการรักษา โดยหากเป็นยาทั่วไป ก็ควรทานก่อนอาหารประมาณ 15-30 นาที แต่ถ้าเป็นยาบางกลุ่ม เช่น เพนนิซิลิน แอมพิซิลิน อาจจะต้องทานก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง
สำหรับยาหลังอาหารนั้น ส่วนมากจะมีฤทธิ์เป็นกรด ซึ่งสามารถกัดกระเพาะได้ หากทานยาเข้าไปในขณะที่ท้องว่าง ตัวยาก็จะกัดกระเพาะ และอาจส่งผลข้างเคียงตามมา เช่น อาการกระเพาะเป็นแผล โรคกระเพาะ จึงควรทานยาหลังอาหารประมาณ 15 นาที แต่ยาหลังอาหารบางชนิดก็อาจจะต้องทานหลังทานข้าวทันที พร้อมดื่มน้ำตามให้มาก เนื่องจากทำให้กระเพาะอาหารระคายเคืองจนเกิดอาการคลื่นไส้ เวียนหัว อาเจียนได้ หรือในยาหลังอาหารบางชนิดก็สู้กรดไม่ได้ ทานตอนท้องว่าง กรดจะทำลายฤทธิ์ของยา และไม่ได้ผลในการรักษา จึงต้องทานหลังอาหารนั่นเอง
เข้าใจแล้วใช่มั้ย อยากหายไวก็ควรทำตามฉลากยาบอกอย่างเคร่งครัดนะ!