ใครๆ ก็รู้ว่ากินผักแล้วดี เพราะผักอุดมไปด้วย วิตามิน แร่ธาตุ กากใยอาหาร และคุณประโยชน์ของผักหลากสี ซึ่งสรรพคุณต่างๆ เหล่านี้ในผัก จะช่วยเสริมสร้างการทำงานของเซลล์ต่างๆ และควบคุมการไหลเวียนของของเหลวต่างๆ ภายในร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้สุขภาพแข็งแรง สดชื่น กระปรี้กระเปร่า มีชีวิตชีวา
ปัจจุบันมีพืชผักมากมายนานาชนิดให้เลือกกิน เลือกปรุงอาหาร ตามความชอบและเหตุผลในการดูแลสุขภาพ ขอแนะนำ 5 พืชผักน่ากินที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้จักหรือลองลิ้มรสมาก่อน ซึ่งขอบอกเลยว่า เจ้าผักทั้ง 5 ชนิดนี้มีสรรพคุณดีต่อร่างกายแบบสุดๆ
1. ข้าวโพดราชินีทับทิมสยามอินทรีย์
ส้มตำข้าวโพดราชินีทับทิมสยาม
ข้าวโพดหวานสีแดงพันธุ์แรกของโลกที่คิดค้นสายพันธุ์โดยคนไทย โดดเด่น ด้วยเมล็ดสีแดงสดทั่วทั้งฝัก รสชาติหวานกรอบ มีกลิ่นหอม สามารถรับประทานสดได้เลยจากต้น ไม่จำเป็นต้องผ่านความร้อน หรือจะนำไปปรุงอาหารด้วยความร้อนก็ได้ ข้าวโพดชนิดนี้มีปริมาณสารแอนโทไซยานินสูงช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้ดี
2. บีทรูท
เป็นผักเพื่อสุขภาพประจำเมืองหนาว ปลูกกันมากทางภาคเหนือในไทย มีต้นกำเนิดจากแถบเมดิเตอร์เรเนียน แถบยุโรป โดยสารสีแดงที่ชื่อว่า “บีทานิน” ซึ่งเป็นกรดอะมิโนอยู่ในหัวบีทรูทนั้น มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยลดการเติบโตของเนื้องอก ทำให้เลือดลมและระบบการไหลเวียนของเลือดทำงานได้ดี นอกจากนี้ยังมีสารสีม่วงที่มีชื่อว่า “แอนโทไซยานิน” ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดสารก่อมะเร็งและช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและอัมพาตอีกด้วย การดื่มน้ำบีทรูทเป็นประจำจะช่วยเสริมสร้างพละกำลัง ความแข็งแรงและชะลอความเสื่อมของเซลล์
3. ผักสลัดคอส
“คอส” เป็นผักกาดหวานชนิดหนึ่ง นิยมนำมาเป็นส่วนประกอบในเมนูสลัดหรือแซนด์วิช คอสอุดมไปด้วยวิตามินมากมาย ทั้งวิตามิน A วิตามิน B1 วิตามิน B2 วิตามิน B3 วิตามิน B5 วิตามิน B6 วิตามิน B9 วิตามิน C วิตามิน E นอกจากนี้ยังมี แคลเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก เบต้าแคโรทีน คาร์โบไฮเดรต โปรตีน แมกนีเซียม ไขมัน แมงกานีส คอสช่วยเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดแดงในร่างกาย ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง ช่วยให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรง แถมยังมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตเพียง 3% จึงเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานและช่วยในเรื่องการขับถ่ายอีกด้วยเพราะมีกากใยค่อนข้างสูง
4. ผักจิงจูฉ่าย
จิงจูฉ่ายสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็นและกลิ่นหอม ยิ่งถูกความร้อนก็ยิ่งหอมจึงนิยมนำมาปรุงอาหารเพื่อดับกลิ่นคาวได้เป็นอย่างดี โดยสรรพคุณของสมันไพรชนิดนี้จะมีน้ำมันหอมระเหยที่ประกอบไปด้วยสารอะบีอินที่ช่วยปรับสมดุลความดันเลือดในร่างกาย ช่วยขับลมในลำไส้และกระเพาะอาหาร บำรุงปอด บำรุงเลือดลม เหมาะกับคนที่มีอาการร้อนในบ่อยๆ และสตรีที่มีปัญหาเลือดลมไม่ปกติ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่พบว่าจิงจูฉ่ายช่วยต้านเซลล์มะเร็งอีกด้วย
5. ผักเคลอิตาเลียน
ผักเคลนั้นอยู่ในตระกูลเดียวกับบร็อคเคอรี่ ดอกกะหล่ำ คะน้าและแขนง “เคล” ติดอันดับว่าเป็นหนึ่งในซูเปอร์ฟู้ดส์ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นผักที่มีคุณค่าทางอาหารสูงที่สุดในโลก อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ไขมันดีโอเมก้า 3 มีแคลเซียมสูงกว่านมวัวถึง 3 เท่า และมีแคลเซียมสูงกว่าผักโขมถึง 14 เท่า (เมื่อเทียบกันเป็นแคลอรี) มีปริมาณกากใยไฟเบอร์สูง มีวิตามิน A สูงมาก ช่วยบำรุงสายตา ปอด และผิวพรรณให้แลดูสดใส เปล่งปลั่ง
หากใครอยากลองลิ้มรสชมผักเหล่านี้ สามารถหาซื้อได้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วไป หากไม่ทราบว่าควรจะนำมาปรุงอย่างไรบ้าง สามารถสอบถามพนักงานขายได้ทันที ในบางแห่งมีบริการปรุงสุกให้ซื้อกลับบ้านได้ด้วย