เหงื่อบอกโรคได้หลายชนิด ลองมาเช็กกันสิว่า หยาดเหงื่อที่ออกมาจากร่างกายบ่งบอกปัญหาสุขภาพอะไรได้บ้าง
เราอาจจะคิดกันว่าอากาศร้อนคือสาเหตุสำคัญที่ทำให้เหงื่อออก ซึ่งนั่นก็ไม่ถูกเสียทีเดียว เพราะการที่ของเหลวในร่างกายถูกกลั่นออกมาเป็นเหงื่อนั้นอาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพได้ อย่างเช่นที่เราได้หยิบเอาเรื่องของเหงื่อบอกโรคมาฝากกัน ลองมาดูกันดีกว่าเหงื่อจะบอกอะไรเกี่ยวกับสุขภาพของเราได้บ้าง
1. เหงื่อเค็ม-ร่างกายขับโซเดียม
โดยปกติแล้วเหงื่อของคนเราที่ออกมาจากร่างกายไม่ได้เป็นเพียงแค่น้ำใสๆ ธรรมดา แต่จะมีรสชาติที่แตกต่างกันไป ที่เห็นได้บ่อยก็คือรสชาติเค็มของเหงื่อ ขอบอกว่ารสชาติเค็มๆ จนทำให้เกิดเป็นคราบเกลือขึ้นเมื่อสวมใส่เสื้อผ้า ไม่ใช่เรื่องอันตรายค่ะ เพราะนั่นแปลว่าร่างกายกำลังขับโซเดียมและสารอาหารบางชนิดออกมาตามปกติของร่างกาย จึงไม่ใช่เรื่องต้องกังวลค่ะ
2. เหงื่อออกเยอะ-ภาวะหลั่งเหงื่อมาก (Hyperhidrosis)
สำหรับคนที่มักจะมีเหงื่อท่วมอยู่เป็นประจำละก็ อย่าคิดว่าเป็นเพราะร่างกายระบายความร้อนได้มากนะคะ เพราะบางทีนั่นอาจจะเป็นความผิดปกติของต่อมเหงื่อที่เรียกว่า ภาวะหลั่งเหงื่อมาก (Hyperhidrosis) โดยเหงื่อสามารถออกมาได้ทั่วร่างกาย ไม่เว้นแม้แต่มือหรือเท้า ทั้งนี้ภาวะหลั่งเหงื่อมากจะเกิดขึ้นได้ 2 แบบ ได้แก่
– เกิดขึ้นโดยไร้สาเหตุ (Primary hyperhidrosis)
แม้ว่าภาวะเหงื่อท่วมโดยไม่มีสาเหตุอาจจะดูเหมือนผิดปกติ แต่เหงื่อที่ออกนั้นก็อาจไม่ได้เป็นสัญญาณของสุขภาพที่อันตรายแต่อย่างใด ยกเว้นแต่ว่าหากเหงื่อนั้นเกิดขึ้นแบบไร้สาเหตุพร้อมกับอาการข้างเคียง นั่นก็อาจจะกลายเป็นความผิดปกติได้
– เกิดขึ้นโดยทราบสาเหตุ (Secondary hyperhidrosis)
อาการเหงื่อออกเยอะที่มีสาเหตุนั้นส่วนใหญ่มักจะเกิดจากความผิดปกติของระบบการทำงานของร่างกาย หรือโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งสามารถแบ่งได้ตามนี้ค่ะ
* มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphoma)
โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เป็นโรคที่ทำให้เกิดอาการเหงื่อออกมากผิดปกติได้ แต่ถึงกระนั้นเองก็ยังไม่พบสาเหตุที่แน่ชัดว่าเพราะอะไรผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองจึงมีเหงื่อออกมากผิดปกติ ซึ่งโดยปกติแล้วอาการเหงื่อออกเยอะในผู้ป่วยโรคนี้จะมีอาการไข้เรื้อรังร่วมด้วย
* โรคเบาหวาน
สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ถ้าหากมีอาการเหงื่อออกมากผิดปกติ หรือเหงื่อออกทั้งๆ ที่อากาศไม่ได้ร้อน นี่ไม่ใช่เรื่องดีเลยล่ะค่ะ เพราะนั่นเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าระดับน้ำตาลในเลือดกำลังลดต่ำกว่า 70 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายเพราะอาจจะทำให้เป็นลมหรือหมดสติได้ ทางที่ดีหากรู้ว่าตัวเองเป็นโรคเบาหวานก็ควรพกของหวานติดตัวไว้ค่ะ
* โรคอ้วน
น้ำหนักตัวที่มากผิดปกติจนเกินไปจนกลายเป็นโรคอ้วน ก็เป็นสาเหตุของอาการเหงื่อออกบ่อยๆ ได้ เพราะเมื่อน้ำหนักมากขึ้น ร่างกายก็จะต้องทำงานหนักขึ้น และร่างกายก็จำเป็นจะต้องระบายความร้อนภายในร่างกายออกมาเป็นเหงื่อ จึงจะสังเกตได้ว่าคนที่น้ำหนักมากๆ จะเหงื่อออกง่ายกว่าปกตินั่นเอง
* โรคที่เกิดจากการติดเชื้อ
เมื่อร่างกายติดเชื้อโรคบางชนิดซึ่งก่อให้เกิดอาการไข้ขึ้นสูง ก็จะส่งผลให้มีเหงื่อออกมามากขึ้น เนื่องจากร่างกายจะต้องระบายความร้อนที่เกิดจากอาการไข้ออกมาทางเหงื่อ ซึ่งจะทำให้ร่างกายเย็นลงและอาการไข้ลดลงค่ะ
* โรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์
การทำงานที่ผิดปกติของต่อมไทรอยด์ไม่ว่าจะในภาวะที่ต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป (Hyperthyroidism) หรือไทรอยด์เป็นพิษ ก็ล้วนแต่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน และทำให้เหงื่อออกมากกว่าที่ควรจะเป็น แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูที่อาการอื่นๆ ร่วมด้วย หากมีน้ำหนักลดผิดปกติ กินจุ มืออุ่นและชื้นตลอดเวลา หรือมือสั่น ใจสั่น แปลว่าคุณมีสิทธิ์ที่จะเป็นโรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ค่ะ
* โรคพาร์กินสัน
หากมีเหงื่อออกเยอะ ควบคู่กับอาการมือสั่น แต่ไม่มีอาการอื่นๆ ของโรคไทรอยด์ร่วมด้วยก็อย่าชะล่าใจไปเพราะนั่นอาจจะเป็นสัญญาณของโรคอีกชนิดหนึ่งที่กำลังคืบคลานเข้ามา โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ นั่นก็คือโรคพาร์กินสันซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของสารเคมีในสมองที่ทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมการทำงานของระบบประสาทได้ ดังนั้นถ้าหากมีเหงื่อออกมากและเกิดอาการมือสั่นละก็ ไม่ควรนิ่งเฉย ไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจดีกว่านะคะ
* ภาวะหัวใจล้มเหลว
อีกหนึ่งโรคอันตรายที่อาจมีสัญญาณเป็นอาการเหงื่อออกมากผิดปกตินั่นก็คือภาวะหัวใจล้มเหลว ที่เกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน อาการนี้จะทำให้เกิดเหงื่อออกมากผิดปกติ ซึ่งถ้าหากมีอาการดังกล่าวร่วมกับอาการปวดและแน่นบริเวณหน้าอก หรืออาการคลื่นไส้ อาเจียน เป็นลมด้วยละก็ รีบไปโรงพยาบาลอย่างด่วนเลยค่ะ
* ตั้งครรภ์
การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกายผู้หญิงที่เกิดมาจากการตั้งครรภ์ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้คุณสาวๆ มีเหงื่อออกมากกว่าปกติได้ แต่ไม่ใช่เรื่องอันตรายแต่อย่างใด เพียงแต่ควรดูแลตัวเองให้ดียิ่งขึ้น เพราะในช่วงตั้งครรภ์จะมีอาการข้างเคียงต่างๆ ตามมาด้วย ทั้งอาการเหนื่อยง่าย แพ้ท้อง หรืออารมณ์แปรปรวน เป็นต้น ทว่าถ้าหากคุณสาวๆ ไม่ได้ตั้งครรภ์ แต่มีเหงื่อออกเยอะร่วมกับภาวะอารมณ์แปรปรวน นั่นอาจจะเป็นความผิดปกติของฮอร์โมนก็เป็นได้ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหน่อยดีกว่าค่ะ
3. เหงื่อไม่ออก-เสี่ยงฮีตสโตรก (Heat Stroke)
โดยปกติแล้วเมื่อร่างกายเจอกับอากาศร้อนๆ ร่างกายก็จะคลายความร้อนด้วยการผลิตเหงื่อออกมา แต่ถ้าหากคุณอยู่ในอากาศที่ร้อนอบอ้าว แล้วเกิดเหงื่อไม่ไหล แถมมีอาการหน้ามืดด้วย ขอบอกว่านั่นเป็นสัญญาณของภาวะฮีตสโตรกหรือโรคลมแดดแล้วล่ะค่ะ ซึ่งเจ้าโรคนี้ถือได้ว่าเป็นอันตรายอย่างมากเพราะสามารถทำให้เป็นลม หมดสติ และเสียชีวิตได้เลย
4. เหงื่อมีกลิ่น-ความเครียดกำลังพุ่ง !
ปกติแล้วเหงื่อของคนเราจะมีลักษณะใส ไม่มีกลิ่นและสี คล้ายกับน้ำธรรมดา แต่ถ้าหากอยู่ดีๆ เหงื่อของคุณเกิดมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ก็อย่าได้ตกใจไปค่ะ เพราะร่างกายกำลังบอกว่าคุณน่ะเครียดมากจนเกินไปแล้ว โดยสาเหตุที่ทำให้เหงื่อมีกลิ่นก็เป็นเพราะว่าร่างกายของคนเราจะมีต่อมเหงื่ออยู่ 2 ชนิด คือ ต่อมเอ็กไครน์ (Eccrine glands) ที่อยู่ตามผิวหนังและทำหน้าที่สร้างเหงื่อในช่วงเวลาปกติ ซึ่งจะไม่มีกลิ่น กับต่อมอะโพไครน์ (Apocrine glands) ที่อยู่ลึกกว่าต่อมชนิดแรก ต่อมชนิดนี้จะอยู่บริเวณซอกหลืบต่างๆ ในร่างกาย และจะทำงานเมื่อร่างกายเกิดความเครียด เหงื่อที่ออกมาจากต่อมนี้จะมีไขมัน โปรตีนและแบคทีเรียบางชนิดออกมาด้วยจึงทำให้เกิดกลิ่น นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเวลาที่เราเครียดเหงื่อจึงเหม็นนั่นเอง
5. เหงื่อออกตอนกลางคืน-ภาวะหมดประจำเดือน
สำหรับคุณผู้หญิงที่กำลังก้าวสู่วัยหมดประจำเดือน ไม่ต้องแปลกใจถ้าหากมีอาการเหงื่อออกในเวลากลางคืนค่ะ เพราะอาการเหล่านี้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งนอกจากเหงื่อที่ออกมาในตอนกลางคืนแล้ว ก็ยังอาจมีอาการร้อนวูบวาบ และอารมณ์แปรปรวนร่วมด้วย ซึ่งอาการนี้จะดีขึ้นหากมีการปรับระดับฮอร์โมนให้เป็นปกติค่ะ
เห็นไหมคะว่าเหงื่อก็ถือเป็นสัญญาณสุขภาพที่สำคัญเช่นกัน ฉะนั้นก็อย่ามองข้ามและเห็นว่าเป็นเรื่องน่ารำคาญเลยดีกว่าเนอะ ลองสังเกตเหงื่อ และอาการผิดปกติของตัวเองเพิ่มขึ้นอีกหน่อย หากเป็นอะไรจะได้รีบรักษาได้อย่างทันท่วงทีค่ะ