การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ เพราะคงไม่มีใครอยากทำงานหนัก เหนื่อยมาทั้งชีวิต เพื่อหาเงินมารักษาโรคตอนแก่จริงไหมคะ เรื่องสุขภาพจึงเป็นเรื่องใหญ่ ที่ควรให้ความสำคัญมากๆอีกเรื่องหนึ่ง อาหารที่รับประทานเข้าไปเป็นปัจจัยหลักๆ ที่ส่งผลต่อสุขภาพของคุณ ดังนั้น อย่ามัวแต่เลือกทานของอร่อย ของที่ชอบ จนลืมทานของที่มีประโยชน์ วันนี้ GangBeauty จะพาคุณไปรู้จักกับผักบ้านๆ สมุนไพรของไทยเรา เป็นสมุนไพรรักษาโรคที่สรรพคุณดีเยี่ยม สามารถช่วยลดความเสี่ยงโรคร้ายหลายๆโรคได้ จะมีผักอะไรบ้างนั้น ตามไปดูพร้อมกันได้เลยค่ะ
ผักติ้ว
ยอดอ่อน ใบอ่อน และดอกอ่อนของผักติ้วหรือติ้วขาว นิยมนำมากินสดๆกับลาบ น้ำพริก แจ่ว เมี่ยงญวน และอีกหลายๆเมนู หรือจะนำไปปรุงสุกทำยำ หรือต้มทำซุป ก็อร่อยไม่แพ้กัน มีรสชาติฝาดและขมเล็กน้อย แต่หวานเป็นลมขมเป็นยาค่ะ เพราะผักติ้วมีสรรพคุณสุดเลิศ ดังนี้
1.ช่วยบำรุงโลหิต ฟอกโลหิต (ยอด, ใบอ่อน, ดอก, เถา)
2.เปลือกต้นนำมาต้มกับน้ำกินแก้ธาตุพิการ (เปลือกต้น)
3.ช่วยแก้ประดง (ยอด, ใบอ่อน, ดอก, เถา)
4.ผักติ้วเป็นผักที่มีวิตามินเอสูง จึงมีสรรพคุณช่วยป้องกันไม่ให้เด็กเป็นตาบอดกลางคืน และโรคตาไก่
5.ช่วยขับลม (ยอด, ใบอ่อน, ดอก, เถา)
6.รากและใบ ใช้ต้มกับน้ำกินเป็นยาแก้อาการปวดท้อง (รากและใบ)
7.ใช้รากผสมกับรากปลาไหลและหัวแห้วหมู นำมาต้มกับน้ำดื่มวันละ 3 ครั้งเป็นยาขับปัสสาวะ แก้อาการปัสสาวะขัด (ราก)
8.แก่นและลำต้น ใช่แช่กับน้ำดื่ม ช่วยแก้ปะดงเลือด หรืออาการเลือดไหลไม่หยุด (แก่นและลำต้น)
9.ต้นและยางจากเปลือกต้น ใช้ทาแก้อาการคัน (ยาง)
10.เปลือกและใบ นำมาตำผสมกับน้ำมันมะพร้าว ใช้ทารักษาโรคผิวหนังบางชนิด (เปลือกและใบ)
11.น้ำยางจากต้น ใช้ทารักษารอยแตกของส้นเท้าได้ (ยาง)
12.ช่วยแก้อาการปวดตามข้อ แก้ไขข้อพิการ (ยอด, ใบอ่อน, ดอก, เถา)
13.มีงานวิจัยเรื่องการทดลองสารที่พบจากใบผิวติ้วขน โดยพบว่ามีฤทธิ์ในการต้านมะเร็งตับได้
(แต่งานวิจัยดังกล่าวยังไม่เสร็จสิ้นพอที่จะเอาไปใช้ต่อยอดในเชิงพาณิชย์ได้ จึงสรุปได้แต่เพียงว่า การรับประทานผักติ้วเป็นประจำจะช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งตับได้ (ใบ))
ผักชีลาว
อีกหนึ่งผักสมุนไพรใกล้ตัว ที่คุณประโยชน์เพียบ จากหลายงานวิจัยของนานาประเทศ ทำให้ทราบว่า ในใบเล็กๆของผักชีลาว มีสรรพคุณช่วยหยุดยั้งหรือต้านโรคต่างๆได้ ดังนี้
1. หยุดยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค น้ำมันหอมระเหยในผักชีลาวมีประสิทธิภาพต่อต้านเชื้อแบคทีเรียต่างๆ สารสกัดจากเมล็ดผักชีลาวสามารถฆ่าเชื้อราชนิดต่างๆได้อีกด้วย
2. ลดคอเลสเตอรอล การรับประทานผักชีลาว สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไขมันชนิดที่ไม่ดีต่อร่างกายได้ อันเป็นผลดีต่อสุขภาพหัวใจ
3. ลดกรดไหลย้อน เนื่องจากสามารถเข้าไปช่วยกระตุ้นการทำงานในลำไส้ ทำให้อาหารที่รับประทานเข้าไปย่อยได้ดีขึ้น
4. นอนหลับได้ดีขึ้น สามารถบรรเทาอาการนอนไม่หลับได้ เพราะสารฟลาโวนอยด์และวิตามินบีในผักชีลาวจะช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์และฮอร์โมนบางชนิดส่งผลให้เกิดภาวะสงบและนอนหลับได้ในที่สุด
5. บำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง เป็นผักที่มีแคลเซียมสูง ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง เป็นอีกทางเลือกของคนที่ไม่ชอบดื่มนม
6. รักษาไข้หวัด ช่วยบรรเทาอาการของไข้หวัด เช่น ไอ คัดจมูก
7. ช่วยให้ลมหายใจสดชื่น กลิ่นปากไม่ใช่เรื่องตลก ให้ผักชีลาวช่วยคุณได้ เพียงแค่เคี้ยวๆ กลิ่นไม่พึงประสงค์ก็จะหายไป
8. ป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง ผักชีลาวนั้นมีสารโมโนเทอร์ปีน (monoterpenes) อันมีคุณสมบัติในการต่อสู้กับการโจมตีของเซลล์มะเร็งและช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ในการใช้สมุนไพรชนิดนี้ด้วย
9. บำรุงสุขภาพผู้หญิง ทำให้ระยะตกไข่ยาวนานขึ้น และช่วยให้ฮอร์โมนโปรเจสเทอโรนทำงานในร่างกายเพิ่มขึ้น รวมถึงผลดีต่อคุณแม่ให้นมบุตรด้วย
10. ไฟเบอร์มีส่วนช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่าย นอกจากนี้ใครที่ท้องเสียก็ควรรับประทานผักชีลาว เพราะผักชีลาวมีแร่ธาตุที่สำคัญอย่างแมกนีเซียมช่วยให้อาการท้องเสียดีขึ้นได้
11. รักษาระดับน้ำตาลในเลือด จึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่จะรับประทานเสริมเพื่อควบคุมระดับน้ำตาล
12. ปกป้องร่างกายจากอนุมูลอิสระ ที่ส่งผลกระทบต่อผิวพรรณให้แก่ก่อนวัย และอาจจะทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ ผักชีลาวเป็นตัวช่วยที่สามารถต้านอนุมูลอิสระได้อย่างดี
สะเดา
เป็นผักที่มากด้วยคุณประโยชน์ บางคนให้ชื่อผักสะเดาว่า เป็นต้นไม้เเห่งยา เพราะมีผลดีต่อสุขภาพได้อย่างไม่น่าเชื่อ เช่น สรรพคุณที่กำลังจะบอกคุณต่อไปนี้
1. ดีท็อกซ์สารพิษตกค้างในร่างกาย ล้างพิษในกระแสเลือด กระตุ้นให้เลือดลมไหลเวียนดีขึ้น
2. รักษาโรคผิวหนัง ยับยั้งเชื้อรา แบคทีเรียและเชื้อไวรัสตามส่วนต่างๆของร่างกายได้
3. แก้ไข้มาเลเรีย ในใบและเมล็ดสะเดา สามารถยับยั้งเชื้อฟัลซิปารัม (P.Falciparum) ซึ่งเป็นเชื้อไข้มาลาเรียดื้อยาชนิดหนึ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ???
4. นำมาใช้เป็นยารักษาโรคไขข้อได้ โดยช่วยลดอาการปวด และบวมในข้อ ซึ่งอาจนำมาสกัดเป็นน้ำมันใช้ทาในบริเวณที่มีอาการปวดกล้ามเนื้???อ ปวดข้อ และอาการปวดหลังช่วงล่าง หรือนำใบมาต้มเป็นน้ำดื่มเพื่อรักษาอาการของโรครูมาตอยด์ โรคเกาต์ โรคกระดูกพรุน
5. บำรุงธาตุ บำรุงน้ำดี ช่วยย่อยอาหาร
6. บำรุงสุขภาพช่องปาก นิยมนำมาสกัดเป็นส่วนผสมในยาสีฟัน ช่วยรักษาโรครำมะนาด โรคเลือดออกตามไรฟัน โรคเหงือก และลดอาการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก ได้
7. ช่วยให้เจริญอาหาร ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น และช่วยให้เจริญอาหารได้อีกด้วย
8. ลดความเสี่ยงการเกิดเนื้องอกและมะเร็ง มีคุณสมบัติช่วยลดความเสี่ยงการเกิดเนื้องอก และมะเร็ง โดยไม่ก่อผลข้างเคียงใดๆ
9. คุมกำเนิด สำหรับผู้หญิงนั้นจะใช้น้ำมันสะเดาชุบสำลีทาบริเวณปากในช่องคลอดเพื่อชะลอการปฏิสนธิกับไข่ โดยจะฆ่าเชื้ออสุจิให้ตายภายใน 30 วินาที ส่วนผู้ชายจะใช้ฉีดน้ำมันสะเดาบริเวณท่อนำอสุจิ เพื่อยับยั้งการปล่อยอสุจิที่จะออกฤทธิ์นานประมาณ 4 ชั่วโมง
10. สะเดาช่วยบำรุงกระดูกและข้อต่อต่างๆ ในร่างกายเรา และยังช่วยบรรเทาอาการจากโรคไฟโบรไมอัลเจีย(Fibromyalgia) หรือโรคในกลุ่มอาการปวดเรื้อรังอีกด้วย
11. ป้องกันเบาหวาน ยับยั้งการผลิตอินซูลินได้กว่าร้อยละ 50 และยังช่วยปรับสมดุลความอยากอาหารได้อีกด้วย
12. กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันโรค ทำให้เลือดหมุนเวียนดี ลดการติดเชื้อในร่างกาย ต้านไข้หวัด
13. บำรุงหัวใจ มีคุณสมบัติช่วยขยายหลอดเลือด ทำให้การไหลเวียนของเลือดเป็นปกติขึ้น ปรับสมดุลจังหวะการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติ หัวใจจึงแข็งแรงขึ้น
ขี้เหล็ก
พืชผักสมุนไพรที่หาได้ง่ายตามตลาด มีหลายส่วนที่มีสรรพคุณทางยา เช่น ใช้แก้อาการท้องผูก บำรุงโลหิต บำรุงน้ำดี ช่วยทำให้เจริญอาหาร ช่วยกำจัดรังแค ทำความสะอาดผมทำให้ผมชุ่มชื่นเงางาม แต่ควรรับประทานในปริมาณที่พอดี เพราะแม้จะมีข้อดีอยู่มาก แต่ก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้เช่นกัน
และนี่ก็คือ 4 พืชผัก สมุนไพรรักษาโรค สมุนไพรไทยที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ บอกเลยว่าใครที่ไม่ชอบทานผักต้องคิดใหม่แล้วล่ะค่ะ