วิธีคุมกำเนิดมีมากมายให้เลือกสรร แต่บางคนอาจเลือกใช้วิธีนับระยะปลอดภัย “หน้า 7 หลัง 7” ซึ่งถ้านับไม่เป็น หรือประจำเดือนมาไม่ตรง ก็มีสิทธิ์พลาดพลั้งได้ง่ายๆ
เคยได้ยินมาว่า “หน้า 7 หลัง 7” เป็นหนึ่งในวิธีคุมกำเนิดตามธรรมชาติที่สาวๆ หลายคนใช้กัน แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า “หน้า 7 หลัง 7” หรือการนับระยะปลอดภัยที่ว่านี้เขานับกันอย่างไร แล้วจะปลอดภัยอย่างที่ว่าจริงๆ หรือเปล่า คำตอบของเรื่องนี้ เราจะมาขยายความให้เข้าใจกันอย่างชัดเจนขึ้นค่ะ
หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร ?
หน้า 7 หลัง 7 หรือการนับระยะปลอดภัย เป็นอีกหนึ่งวิธีคุมกำเนิดตามธรรมชาติ แต่จะเห็นผลกับผู้หญิงที่มีรอบเดือนปกติ 26-32 วัน และรอบเดือนมาอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน โดยระยะปลอดภัยที่ว่านี้ก็คือช่วงเวลา 7 วันก่อนที่รอบเดือนจะมา และ 7 วันหลังจากวันแรกที่รอบเดือนมานั่นเอง
หน้า 7 หลัง 7 นับอย่างไร ?
ระยะปลอดภัยมีวิธีการนับที่ค่อนข้างง่าย แต่จะต้องมั่นใจว่าตนเองมีรอบเดือนที่ปกติและมาตรงกันทุกเดือน เนื่องจากการคลาดเคลื่อนเพียงวันเดียวก็อาจทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ โดยปกติแล้วผู้หญิงจะมีรอบเดือนประมาณ 28 วัน แต่ก็จะมีบางคนที่มีรอบเดือนสั้นกว่า หรือยาวกว่านั้น คือไม่ต่ำกว่า 26 วัน และไม่ยาวกว่า 32 วัน แต่สำหรับคนที่มีรอบเดือนมาตรงกันทุกเดือน จะมีวิธีการนับดังนี้ค่ะ
นางสาว ก. ประจำเดือนมาตรงกันทุกเดือน โดยวันแรกคือวันที่ 8
ช่วงระยะปลอดภัยหน้า 7 ก็คือ ก่อนวันที่ 8 ไป 7 วัน คือ วันที่ 1 2 3 4 5 6 7
ช่วงระยะปลอดภัยหลัง 7 ให้นับตั้งแต่วันที่ 8 เลยไปอีก 7 วัน คือ 8 9 10 11 12 13 14
ฉะนั้นระยะปลอดภัยที่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้โดยไม่มีโอกาสตั้งครรภ์ก็คือตั้งแต่วันที่ 1-14
ทั้งนี้ แม้ว่าการนับระยะปลอดภัยจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ แต่ก็ไม่ควรประมาท โดยการมีเพศสัมพันธ์ในช่วง 7 วันก่อนมีประจำเดือนวันแรกนั้นสามารถทำได้ทุกวัน แต่ในช่วงเริ่มมีประจำเดือนแล้ว แม้จะยังเป็นระยะปลอดภัย แต่ก็ควรมีเพศสัมพันธ์ได้แค่ในช่วงที่รอบเดือนหมดแล้ว เพราะการมีเพศสัมพันธ์ในขณะมีรอบเดือนอาจจะทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ หากจะมีเพศสัมพันธ์จริงๆ ควรสวมถุงยางอนามัยจะช่วยให้ปลอดภัยจากการตั้งครรภ์และการติดเชื้อได้ค่ะ
หน้า 7 หลัง 7 นับแล้วไม่ท้องจริงหรือ ?
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่าการนับระยะปลอดภัย หน้า 7 หลัง 7 ไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% ทั้งนี้เป็นเพราะปัจจัยอื่นๆ อย่างเช่น วันไข่ตก ซึ่งผู้หญิงแต่ละคนจะไม่เท่ากัน เพราะถ้าหากในช่วงหน้า 7 หลัง 7 นั้นเป็นช่วงที่ไข่ตกแล้วละก็ ยังไงก็มีการปฏิสนธิและเกิดการตั้งครรภ์แน่นอนค่ะ นอกจากนี้การนับระยะปลอดภัยยังไม่เหมาะสำหรับวัยรุ่นซึ่งเป็นวัยเจริญพันธุ์อีกด้วย เพราะไข่จะตกบ่อยกว่าวัยอื่นๆ ทำให้มีโอกาสตั้งครรภ์สูงค่ะ
นับวันไข่ตก ทำอย่างไร
การนับวันไข่ตก สามารถใช้ได้กับคนที่ประจำเดือนมาตรงกันทุกเดือนเท่านั้น เพราะความคลาดเคลื่อนอาจทำให้การนับวันไข่ตกผิดพลาดได้ ซึ่งปกติแล้วผู้หญิงเราจะมีช่วงไข่ตกอยู่ที่ 2 สัปดาห์ก่อนประจำเดือนจะมา ถ้าหากไม่ทราบว่าตัวเองมีช่วงไข่ตกเมื่อไร ก็สามารถสังเกตในครั้งแรกได้ด้วยการสังเกตมูกที่ปากมดลูก หากพบมูกที่ปากมดลูกติดต่อกัน 2 วัน นั่นแปลว่าคุณสาวๆ กำลังอยู่ในช่วงเจริญพันธุ์ สิ่งที่ควรทำก็คือหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันค่ะ
คุณสาวๆ ได้ทราบกันแบบนี้แล้ว ก็คงจะพอเข้าใจถึงวิธีการนับหน้า 7 หลัง 7 กันบ้างแล้วล่ะเนอะ แต่ถ้ายังนับไม่เป็นละก็ เดี๋ยวนี้ก็มีแอปพลิเคชันที่ช่วยในการนับระยะปลอดภัย และนับเวลาไข่ตก ให้ได้เลือกใช้มากมายเลยเชียวล่ะ แต่ถึงอย่างไรก็ตามหากต้องการคุมกำเนิดให้ได้ผลจริงๆ ก็ไม่ควรจะพึ่งพาวิธีการนับระยะปลอดภัยเพียงอย่างเดียว แต่ควรใช้วิธีอื่นร่วมด้วย เพื่อที่จะได้ลดโอกาสการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ได้ค่ะ