การแพ้อาหาร (Food allergy) เป็นอาการแพ้ที่เกิดขึ้น เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย มองอาหารบางชนิดว่าเป็นอันตราย อาหารที่กระตุ้นอาการแพ้เรียกว่า สารก่อภูมิแพ้ (allergens) ในงานวิจัยบางชิ้น พบว่ามีเด็กร้อยละ 4-6 และผู้ใหญ่ประมาณร้อยละ 6 ที่ได้รับผลกระทบจากการแพ้อาหาร ในเด็กและทารกนั้น ภาวะนี้มักเกิดขึ้นได้มากกว่า
ประเภทการแพ้อาหาร
การแพ้อาหารมีสองประเภท ได้แก่
– ประเภท IgE mediated อาการแพ้ชนิดนี้ เกิดขึ้นในแบบที่สัมพันธ์กับการปล่อยแอนติบอดี IgE จากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย แอนติบอดีเหล่านี้จะมีปฏิกิริยากับอาหารบางชนิด
– ประเภท Non-IgE mediated ภาวะนี้เกิดขึ้นเมื่อส่วนอื่นๆ ของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย มีปฏิกิริยาต่ออาหารบางชนิด การแพ้อาหารชนิดนี้ ไม่ทำให้ร่างกายกระตุ้นแอนติบอดี IgE
อาการต่างๆ ของการแพ้อาหาร
เมื่อเด็กแพ้อาหาร อาการต่างๆ มักพบได้ที่ผิวหนัง ระบบหัวใจหลอดเลือด ระบบทางเดินอาหาร และทางเดินหายใจ อาการที่พบได้มากที่สุด ได้แก่
– อาเจียน ท้องร่วง หรือเป็นตะคริวที่ท้อง และปวดท้อง
– มีผื่นแดงหรือลมพิษ
– มีอาการบวมที่ลิ้น ริมฝีปาก ลำคอ หรือมีอาการคันในปาก ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการพูด หรือหายใจ
– มีอาการแน่นที่คอ หายใจลำบาก
– หายใจมีเสียง
– ชีพจรต่ำ ทำให้ความดันโลหิตลดลง
– เวียนศีรษะ
– ผิวหนังอาจเป็นสีซีดหรือสีฟ้า
– อาการแพ้ดังกล่าวมักเกิดขึ้นกับอวัยวะของร่างกาย มากกว่าหนึ่งอวัยวะ และสามารถมีอาการแย่ลงได้อย่างรวดเร็ว เมื่ออาการแพ้เกิดขึ้น ผู้ป่วยควรได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม เนื่องจากอาการดังกล่าวอาจทำให้เสียชีวิตได้
อาหารที่ทำให้เกิดอาการแพ้
ในเด็กนั้น อาหารชนิดใดๆ ก็ตาม สามารถเป็นสาเหตุของภูมิแพ้ได้ อย่างไรก็ดี สารก่อภูมิแพ้เหล่านี้คิดเป็นร้อยละ 90 ของการแพ้อาหารทั้งหมดในเด็ก
– นม
– ไข่
– ถั่วที่เติบโตใต้ดิน
– ถั่วเหลือง
– ข้าวสาลี
– ถั่วที่เติบโตบนดิน
– ปลา
– อาหารทะเลเปลือกแข็ง
การรักษาหลักของการแพ้อาหาร ก็คือ การหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดอาการแพ้ ระลึกไว้ว่าให้อ่านฉลากบนผลิตภัณฑ์อาหารใดๆ ก็ตามอย่างระมัดระวัง เพื่อดูส่วนประกอบอย่างชัดเจน จะช่วยลดการรับประทานอาหารที่มีสารก่อภูมิแพ้ได้
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคแต่อย่างใด