แนะนำ น้ำมันปลา เพราะร่างกายของเราอาจไม่ได้แข็งแรงตลอดเวลา เพราะฉะนั้นการทานอาหารเสริมเลยเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับทุกคนที่อยากมีร่างกายที่แข็งแรง วันนี้ GangBeauty เลยมี 8 ยี่ห้อน้ำมันปลาที่กินแล้วได้ผลมาฝากคุณสาวๆกันค่ะ เชื่อว่าสาวๆหลายๆคนอยากหามาทานแต่ไม่แน่ใจว่าควรจะทานยี่ห้อไหนดี หรือต้องทานตอนไหน เพราะงั้นตามไปดูกันเลยจ้า
น้ำมันปลาหรือ Fish oil คือ น้ำมันที่สกัดมาจากส่วนของเนื้อปลา หนัง หัว และหางของปลาทะเลน้ำลึก ซึ่งในน้ำมันปลานี้จะมีกรดไขมันอยู่หลายชนิด แต่ชนิดที่สำคัญและมีการนำมาใช้ในทางการแพทย์ คือ กรดไขมันกลุ่มโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ซึ่งประกอบด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน ซึ่งกรดไขมันที่สำคัญที่สุดคือกรดไขมันในกลุ่มโอเมก้า 3 ครับ เพราะมีกรดที่สำคัญอยู่ 2 ชนิด คือ EPA (Eicosapentaenoic Acid) และ DHA (Docosahexaenoic Acid) ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้ และจำเป็นต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น
ประโยชน์ของน้ำมันปลา
– EPA ช่วยลดระดับไขมันในเลือดชนิดไตรกลีเซอร์ไรด์
– EPA ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคทางระบบหลอดเลือดและหัวใจ
– EPA ช่วยลดความดันโลหิตสูงให้อยู่ในระดับปกติได้
– EPA มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบต่างๆ ในร่างกายได้
– DHA เป็นส่วนประกอบในเซลล์สมอง ประสาท และจอประสาทตา
– DHA อาจช่วยป้องกันภาวะซึมเศร้าและโรคที่เกี่ยวกับความจำหรืออัลไซเมอร์ได้
หลายคนอาจสงสัย น้ำมันปลา ต่างจาก น้ำมันตับปลา (Cod Liver Oil) ยังไง?
น้ำมันตับปลา เป็นน้ำมันที่ได้จากตับปลาทะเล เป็นแหล่งที่ให้วิตามินเอ ช่วยบำรุงผิวพรรณ และวิตามินดี ที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่กระดูก หากรับประทานมากเกินขนาด อาจเกิดพิษจากการสะสมของวิตามินเอและดีซึ่งเป็นวิตามินที่ละลายในร่างกายส่วนที่เป็นไขมัน
น้ำมันปลา
1. สกัดได้จากเนื้อ หัว หางและของปลาทะเล
2. เป็นแหล่งที่ให้กรดไขมันจำเป็น โอเมก้า 3
3. ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไขมันในเลือดสูง
น้ำมันตับปลา
1. สกัดจากตับปลาทะเล
2. เป็นแหล่งที่ให้วิตามินเอและดี
3. บำรุงร่างกายทั่วไป
วิธีกินน้ำมันปลา
- ในข้างขวดของน้ำมันปลาแต่ละยี่ห้อจะระบุปริมาณของ EPA และ DHA ไว้แล้ว ซึ่งเราก็จะรู้ว่าวันหนึ่งเราต้องกินกี่เม็ด โดยให้กินเฉลี่ยๆ หลังอาหารทั้ง 3 มื้อ มื้อละเท่าๆ กันได้เลย
- ควรกินภายใต้การมีโภชนาการที่ดี กินอาหารอื่นๆ ให้ครบหมู่ ไม่ใช่กินแต่น้ำมันปลาอย่างเดียว
- แม้ในปัจจุบันจะมีงานวิจัยที่ระบุว่า การรับประทานน้ำมันปลาแทบจะไม่มีผลต่อการเกิดภาวะเลือดหยุดยาก (ไม่เสี่ยงเลือดออกง่าย) แต่ก็มีคำแนะนำว่าควรหยุดรับประทานน้ำมันปลาก่อนการผ่าตัด ทำฟัน อย่างน้อย 15 วัน
- สำหรับหญิงตั้งครรภ์ ปัจจุบันก็มีหลายงานวิจัยที่ระบุว่า การรับประทานน้ำมันปลาไม่ส่งผลเสียต่อการตั้งครรภ์แต่อย่างใด พร้อมกับมีคำแนะนำว่า หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ 25-35 สัปดาห์ และหญิงให้นมบุตร ควรได้รับ DHA วันละ 1-2 แคปซูล เพื่อช่วยเสริมพัฒนาการทางสมองและสายตาของทารกและเด็ก
- สำหรับผู้ที่ทานยากันเลือดแข็งตัวในโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมองหรืออื่นๆ รวมถึงผู้ป่วยตับและไต ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ถ้าจะรับประทานน้ำมันปลา
น้ำมันปลา ยี่ห้อไหนดี 2023
รู้ข้อมูลของเจ้าน้ำมันปลากันไปแล้ว คราวนี้เราไปดูกันดีกว่าค่ะว่าจะซื้อน้ำมันปลามาทาน ควรซื้อยี่ห้อไหนดี ตาม GangBeauty ไปดูกันเลยจ้า
1. Mega We Care Fish Oil
เริ่มต้นกันด้วย Mega We Care Fish Oil อาจคุ้นตากันมาบ้างเพราะค่อนข้างเป็นที่นิยมกัน สำหรับสูตรนี้คัดสรรสารสกัดน้ำมันปลาจากปลาทะเลลึกในแหล่งน้ำธรรมชาติของประเทศไอซ์แลนด์จนได้เป็นอาหารเสริมที่อุดมด้วยโอเมก้า 3 และDHA คุณภาพสูง เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดระดับไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ สูตรนี้ยังผ่านการวิเคราะห์และรับรองว่าไร้สารปนเปื้อน ได้แก่ โลหะหนัก, การแต่งกลิ่นและสีสังเคราะห์, สารกันบูด จึงเหมาะกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ รับประทานต่อเนื่องเป็นเวลานานได้โดยไม่ทิ้งสารสะสมในร่างกาย ราคา 250 บาท
2. Giffarine fish oil 1000
ต่อกันที่ Mega We Care Fish Oil เป็นอาหารเสริมน้ำมันปลาคุณภาพระดับพรีเมี่ยม มีส่วนผสมจาก Omega-3 EPA และ DHA ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ไม่ข้นหนืด ป้องกันไขข้อเสื่อมอักเสบที่เกิดจากรูมาตอยด์ บำรุงปลายประสาทและเซลล์สมอง มีส่วนช่วยในการป้องกันโรคหัวใจ โรคเบาหวานและความดันสูง สามารถทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
3. Vistra Salmon Fish Oil Plus Vitamin E
สำหรับ Vistra เป็นอีกหนึ่งแบรนด์อาหารเสริมที่เราคุ้นชินกันดี สำหรับสูตรนี้เป็นน้ำมันปลาที่อุดมด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ในปริมาณมากมีครบทั้ง EPA และ DHA รวมถึงมีการผสานเอาคุณสมบัติของวิตามินอีมาด้วย ซึ่งช่วยในการบำรุงผิวพรรณ ผมและเล็บ และยังมีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนั้นยังช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดตามข้อ การลดระดับไตรกรีเซอร์ไรด์ในเลือดและระดับคอเรสเตอรอล หรือการบำรุงเซลล์สมองและสายตา ราคา 360 บาท
4. Blackmores Fish oil 1000
Blackmores Fish oil 1000 เป็นอาหารเสริมจากออสเตรเลีย สำหรับน้ำมันปลาสูตรนี้เป็นสารสกัดที่ได้จากปลาทะเลลึกที่ให้กรดไขมันโอเมก้า 3 อย่างทรงประสิทธิภาพทั้ง DHA และ EPA แถมยังมีวิตามินอี ช่วยเรื่องบำรุงสมอง, เส้นเลือดและร่างกายได้ดียิ่งขึ้น มีส่วนสำคัญในการช่วยการไหลเวียนของเลือด ลดไตรกรีเซอร์ไรด์และลดระดับคอเรสเตอรอล และที่สำคัญผ่านการตรวจสอบมาแล้วว่าปราศจากสารปรอทและตะกั่ว ราคา 873 บาท
5. Bewel Salmon Fish Oil Plus Vitamin E
เป็นอาหารเสริมจากออสเตรเลียอีกตัวสำหรับ Bewel Salmon Fish Oil Plus Vitamin E ซึ่งประกอบไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ทั้ง DHA และ EPA ที่สกัดได้จากปลาทะเลลึกในประเทศไอซ์แลนด์ ปราศจากโลหะหนักและสารเจือปน ช่วยลดไขมันชนิดไตรกรีเซอร์ไรด์ในเลือดซึ่งหากสะสมมากเกินไปจะเป็นอันตราย ตลอดจนช่วยบรรเทาอาการปวดข้ออักเสบ และผสมผสานวิตามินอีมารวมไว้ในแต่ละแคปซูลเพื่อบำรุงผิวพรรณ ราคา 270 บาท
6. Now Molecularly Distilled Omega-3
สำหรับ Now Molecularly Distilled Omega-3 เป็นอาหารเสริมจากสหรัฐอเมริกา ประกอบไปด้วยสารสกัดคุณภาพจากน้ำมันปลา Anchovies ที่เต็มเปี่ยมด้วยโอเมก้า 3 ทั้ง EPA และ DHA ช่วย บำรุงสุขภาพของหัวใจอย่างดีเยี่ยม ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวาย และดูแลหลอดเลือด ผสมผสานด้วยวิตามินอีจากน้ำมันดอกทานตะวัน ช่วยปกป้องเซลล์จากสารอนุมูลอิสระ และชะลอความเสื่อมของเซลล์ร่างกาย และแน่นอนว่าได้รับการรับรองมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของอเมริกามาเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าปราศจากสารตะกั่ว สารปรอท หรือสารจากโลหะหนักต่างๆ ทานได้อย่างปลอดภัยแน่นอนค่ะ ราคา 285 บาท
7. NUTRILITE Salmon Omega Complex Fish Oil
มาต่อกันที่อาหารเสริมน้ำมันปลายี่ห้อ NUTRILITE สกัดมาจากปลาแซลมอนที่เป็นปลาทะเล โดยไม่เจือสีและแต่งกลิ่น ในน้ำมันปลาจะให้กรดไขมันกลุ่มโอเมก้า-3 อันได้แก่ EPA และ DHA ช่วยบำรุงเซลล์ประสาทและสมอง บำรุงสายตา แถมยังมีวิตามินอีที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวพรรณสดใส ดูอ่อนกว่าวัยอีกด้วย ราคา 720 บาท
8. Biogrow FISH OIL
สำหรับตัวสุดท้ายกับ Biogrow FISH OIL น้ำมันปลานำเข้าจากประเทศนิวซีแลนด์ มีสารสกัดที่ได้จากปลาทะเลลึกที่มอบคุณค่าของกรดไขมันโอเมก้า 3 ทั้ง DHA และ EPA ช่วยเรื่องการไหลเวียนโลหิต บำรุงสมอง และช่วยลดไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ในเส้นเลือด และยังช่วยบำรุงสายตา ลดอาการปวดและเจ็บตามไขข้อกระดูก นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของวิตามินอีที่มาเสริมการบำรุงผิวพรรณ ผม เล็บให้มีสุขภาพดีอีกด้วย ราคา 390 บาท
เป็นยังไงกันบ้างคะกับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมน้ำมันปลาที่เราแนะนำ ถูกใจตัวไหนอย่าลืมซื้อมาทานกันนะคะ แต่อย่าลืมทานในปริมาณที่พอดีนะคะ ไม่งั้นนอกจากจะไม่ได้ประโยชน์แล้ว ยังจะทำให้สุขภาพไม่ดีด้วยนะคะ