สุขภาพที่ไม่ดีร้อย 100% อาจรบกวนชีวิตประจำ ทำให้เราใช้ชีวิตอย่างยากลำบากขึ้น และอาจทำให้เสียบุคลิกภาพด้วย ปัญหาเล็กๆ อย่างการ “ไอ” แม้ว่าจะดูเหมือนไม่ได้ทำให้ชีวิตยากลำบากขึ้นมากนัก แต่หากไอเรื้อรังเรื่อยๆ ไม่ยอมหายสักที นอกจากจะสร้างความความระคายคอเหมือนไม่สบายอยู่ตลอดเวลาแล้ว ยังอาจสร้างความรำคาญใจ สร้างปัญหาในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น รวมไปถึงทำลายบุคลิกภาพไปอย่างน่าเสียดายอีกด้วย
5 สาเหตุอาการ “ไอเรื้อรัง” ไม่หายสักที
1. สูบบุหรี่ การสูบบุหรี่ทำให้เนื้อเยื่อที่สัมผัสกับควันบุหรี่ภายในร่างกายเกิดอาการระคายเคือง และอาจสร้างบาดแผล เกิดอาการอักเสบ จนอาจเป็นสาเหตุของโรคหลอดลมอักเสบได้
2. มีเสมหะในลำคอตลอดเวลา มีอยู่หลายสาเหตุ ทั้งอาการของโรคภูมิแพ้ที่อาจเป็นโรคประจำตัวของคนๆ นั้น จมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ กรดไหลย้อน หลอดลมอักเสบเรื้อรัง ติดเชื้อเรื้อรังในคอ หรือแม้กระทั่งการใช้เสียงด้วยวิธีผิดๆ เช่น การหายใจผ่านทางปากมากเกินไป สำหรับคนที่ต้องพูดมากๆ
3. ติดเชื้อเรื้อรังบริเวณคอ เช่น เป็นโรคในลำคอที่เกิดเชื้อรา เชื้อวัณโรค เชื้อซิฟิลิส เชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อไวรัส
4. ลำคอระคายเคืองจากสิ่งแปลกปลอมต่างๆ เช่น สารเคมี สารระเหย (สำหรับคนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสารเหล่านี้) ดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น
5. อาการข้างเคียงของโรคอันตรายอื่นๆ เช่น หัวใจวาย ไอกรน ปอดติดเชื้อ และโรคปอดอื่นๆ
วิธีลดอาการไอเรื้อรังด้วยตัวเอง
– หยุดสิ่งที่ทำให้หลอดลม รวมถึงเนื้อเยื่อภายในร่างกายอื่นๆ ระคายเคือง เช่น หยุดสูบบุหรี่ หยุดดื่มแอลกอฮอล์ ลดการทานอาหาร และเครื่องดื่มเย็นๆ อาหารทอดด้วยน้ำมัน เป็นต้น
– รักษาอาการของโรคต่างๆ ที่เกิดในลำคอให้หาย
– รักษาความชุ่มชื้นให้กับลำคอด้วยการไม่หายใจผ่านทางปากนานๆ ดื่มน้ำบ่อยๆ น้ำอุณหภูมิห้อง หรือน้ำอุ่นเล็กน้อย (น้ำเป็นยาละลายเสมหะที่ดีที่สุด)
– หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องปรับอากาศ หรือพัดลมที่ส่งอากาศเย็นๆ ปะทะศีรษะโดยตรง
– หากมีเสมหะมากจริงๆ สามารถพบแพทย์เพื่อปรึกษา และอาจได้รับยาละลายเสมหะ หรือยาลด/ระงับอาการไอมาทานเพื่อบรรเทาอาการได้