ประเทศไทยโชคดีที่มีผลไม้ให้กินตลอดทั้งปี สาวไทยเลยสามารถลดน้ำหนักจากการทานผลไม้ที่มีประโยชน์ได้แบบไม่เปลืองเงินมากนัก แต่หากจะทานแค่อย่างเดียวมันก็อาจจะไม่สะใจ GangBeauty เองก็ชอบทานสองชนิดพร้อมกัน แต่นายแพทย์กฤษดา ศิริมพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ ได้เผยเตือนเราสาวๆ ว่ายังไงก็มีผลไม้บางคู่ที่ทานพร้อมกันไม่ได้อยู่เหมือนกันนะ!
1. กลุ่มที่มีรสหวานเหมือนกัน
ถ้าสังเกตดีๆ ผลไม้บางชนิดก็หวานเจี๊ยบจนแสบคอ และผลไม้เหล่านั้นล่ะที่ไม่ควรทานเป็นคู่ด้วยกัน เช่น ทุเรียนกับลำไย ขนุนกับละมุด เงาะกับลองกอง เพราะความหวานของผลไม้เหล่านี้มาจากน้ำตาลฟลุกโตส ซึ่งเมื่อทานเข้าไป มันจะกลายเป็นไขมันในเวลาต่อมา และเข้าไปสะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย แน่นอนว่าจะก่อให้เกิดโรคอ้วน โรคเบาหวาน หรือก็อาจจะหมดสวยเพราะลงพุงไปเลย
2. กลุ่มที่เป็นแป้งเหมือนกัน
หากแยกไม่ออกว่าผลไม้ชนิดไหนเป็นแป้งบ้าง ให้สังเกตช่วงดิบกับช่วงสุก โดยถ้าทานดิบมันจะออกเนื้อแน่นๆ แต่เมื่อไหร่สุกปุ๊บ มันจะหวานมาก นี่ก็เพราะแป้งตอนดิบ เปลี่ยนเป็นน้ำตาลตอนสุกนั่นเอง แม้จะทานเข้าไปตอนเป็นแป้ง แต่เวลาต่อมามันก็จะกลายเป็นน้ำตาลอยู่ในร่างกายของเรานี่่ล่ะ จากนั้นก็จะกลายเป็นไขมัน สะสมอยู่บริเวณตับ เสี่ยงตับแข็งหรือมะเร็งตับไปอีก ยกตัวอย่างผลไม้ที่หาทานง่ายๆ จนอาจพลาดจับมาทานคู่กันได้ ก็คู่นี้เลย มะม่วงดิบกับกล้วย หรือมะม่วงกับฝรั่ง
3. กลุ่มที่มีโพแทสเซียมเหมือนกัน
การได้รับโพแทสเซียมในปริมาณที่มากเกินไป จะส่งผลให้ไตทำงานหนัก มากไปกว่านั้นคือหัวใจอาจจะเต้นผิดปกติ ผลไม้ที่ไม่ควรจับคู่กันเลยในหมวดนี้ก็เช่น กีวี่กับแอปเปิ้ล ส้มกับส้มโอ มะเฟืองกับกล้วย ย้ำนะว่าอันตราย ยิ่งเป็นโรคไตหรือหัวใจยิ่งต้องห้ามเลยเด็ดขาด
ถ้าอยากทานผลไม้สองชนิดพร้อมกัน แนะนำให้เอาแต่ละหมวดมาสลับกันดีกว่า เช่นถ้าชอบทานทุเรียน อยากทานทุเรียนที่น้ำตาลสูง ก็ควรทานคู่กับผลไม้ที่มีเส้นใยเยอะๆ อย่างมังคุด ที่จะช่วยชะล้างความหวานจากทุเรียนไป หรือถ้าช่วงนั้นหน้าลำไยรสหวานจัด ก็อาจจะทานคู่กับฝรั่งสดที่มีวิตามินซีและเส้นใยเข้าไปคุมน้ำตาลอีกที เป็นต้น
จะทานผลไม้ก็ต้องพิจารณาให้ดีด้วยนะ มีผลต่อร่างกายมากอยู่นะเนี่ย!